โรคกระเพาะอาหารคือโรคยอดฮิตของมนุษย์ออฟฟิศที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ นั่งติดหน้าจอชีวิตวุ่นวายกับงานประจำ ทั้งทำโอที มีหน้าที่รับผิดชอบหลายอย่างในเวลาเดียวกันและนั่นก็เป็นสาเหตุให้ทานข้าวไม่เป็นเวลา นอนไม่เป็นเวลา ใช้ชีวิตเร่งรีบอยู่ตลอดเวลา ทำให้กลายเป็นโรคกระเพาะอาหารแบบเรื้อรัง จนนำไปสู่การเกิดมะเร็งในกระเพาะอาหาร

แต่สำหรับมะเร็งกระเพาะอาหารนั้นก็ยังหาสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ แต่ปัจจัยหลักๆเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตรวมไปถึงกรรมพันธุ์ สำหรับโรคกระเพาะอาหารอักเสบโรคยอดฮิตของมนุษย์เงินเดือนคือ กระเพาะอาหารติดเชื้อที่เรียกว่า
“เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร (Helicobacter pylori หรือ H.pylori) เจ้าเชื้อนี้นี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของกระเพาะอาหารอักเสบ และนำไปสู่มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในกระเพาะอาหาร เชื้อดังกล่าวเข้าสู่ร่างกายโดยอาหาร ภาชนะ จานชาม ที่ใช้ร่วมกับผู้ที่ติดเชื้อนั่นเอง

อาการที่เสี่ยงว่าติดเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ไพโลไร
-ทานอาหารแล้วรู้สึกไม่ย่อย ในส่วนช่องท้องด้านบนและตรงกลาง, ท้องอืดหลังรับประทานอาหาร
-แสบร้อนในทรวงอกเหมือนเป็นกรดไหลย้อน อ่อนเพลีย
-อาเจียน และพบเลือดปนออกมาในอุจจาระ

หากพบอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุทันที โดยแพทย์จะทำการส่องกล้องเพื่อตรวจและตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ และจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ก่อนจะลุกลามไปสู่มะเร็งกระเพาะอาหาร

มาเช็คอาการปวดท้องกันเถอะว่าปวดแบบไหนควรพบแพทย์ด่วน..
– รู้สึกว่าปวดท้องเป็นๆ หายๆนานกว่า 4 สัปดาห์ ร่วมกับอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจทันที
– ปวดท้องมีอาเจียนร่วมด้วย ปวดบีบ ปวดเกร็งๆและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
-ตาเหลือง ตัวซีด อาจเกิดจากมีเลือดออกในกระเพาะอาหาร
-มีไข้ตลอดเวลา รับประทานยาลดกรดก็ยังไม่หายหรือปวดมากขึ้น

จากอาการที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นสิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม ถึงแม้ว่าโรคกระเพาะอาหารจะไม่ถือว่าเป็นโรคที่อันตราย แต่ถ้าปล่อยไว้นานอาจจะเกิดการแทรกซ้อนของโรคต่างๆ ที่อันตรายมากกว่านั้น เพราะเรารู้ดีว่ากระเพาะเป็นส่วนที่ย่อยอาหารและกระจายไปสู่ส่วนต่างของร่างกาย ถ้าไม่อยากเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหารล่ะก็ควรเริ่มตั้งแต่การดูแลปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถ้าเรารู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องยากลองทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมในการดูแลสุขภาพภายในควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพภายนอกด้วย เท่านี้คุณก็จะมีความสุขอย่างแน่นอน